LINE เตรียมเปิดให้บริการใหม่ปลายปี ในรูปแบบของ LINE TAXI กับการเรียกใช้งานรถแท็กซี่แบบถูกกฏหมายผ่านแอพฯ โดยความร่วมมือกับสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ และกรมการขนส่งทางบก ชูจุดเด่นคือเรียกรถง่ายผ่านแอพฯ ไม่มีการปฏิเสธผู้โดยสาร มีความปลอดภัยในการใช้บริการ และที่สำคัญคือเป็นบริการรถแท็กซี่ที่ถูกกฎหมาย นั่งแล้วสบายใจ
โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสนิท พรหมวงษ์ กล่าว่า "บริการ LINE TAXI เป็นการยกระดับคุณภาพแท็กซี่ไทย และเป็นการทวงคืนศักดิ์ศรีคนขับแท็กซี่ด้วย และเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์แท็กซี่ไทยให้มีความทันสมัย ทันนวัตกรรม โดยบริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพ LINE TAXI เป็นส่วนเติมเต็ม โมเดล แท็กซี่ OK และ แท็กซี่ VIP ของกรมการขนส่งทางบก ที่จะเริ่มมีการให้บริการก่อนเดือน พ.ย. ปีนี้ โดยความพิเศษของทั้ง แท็กซี่ OK และ แท็กซี่ VIP คือ จะมีการติดตั้งระบบติดตามรถ หรือ GPS Tracking ไว้ในรถแท็กซี่ เพื่อติดตามเส้นทางการวิ่งของแท็กซี่แต่ละคันได้จากศูนย์ควบคุม และยังมีระบบการแสดงและยืนยันตัวตนของคนขับรถ ซึ่งระบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความอุ่นใจให้กับผู้ใช้บริการรถแท็กซี่แบบถูกกฎหมายได้เป็นอย่างดี โดยที่ แท็กซี่ VIP นั้น ภายในตัวรถจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากกว่า แท็กซี่ OK และมีบริการ LINE TAXI เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพฯ มาเติมเต็มให้ผู้ใช้งาน สามารถเรียกใช้ทั้งรถ แท็กซี่ OK และ แท็กซี่ VIP ได้สะดวกสบายตั้งแต่ขั้นตอนการเรียกรถ การกำหนดจุดหมายปลายทาง และขั้นตอนในระหว่างการใช้บริการ"
ทางฝั่งของผู้ให้บริการแอพฯ แชทชื่อดังอย่าง LINE นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า "Pain point หรือสิ่งที่เป็นความยากลำบากของผู้ใช้บริการรถแท็กซี่คือ หารถแท็กซี่ยากในช่วงเวลา หรือจุดที่คนต้องการเดินทางกันเยอะ และเรื่องของการที่คนขับปฏิเสธผู้โดยสารในช่วงเวลาที่ต้องคืนรถ และเรื่องประเด็นความปลอดภัยในการเรียกใช้งานแท็กซี่ ทางฝั่งของคนขับแท็กซี่ ก็มี Pain point ในเรื่องของการที่ต้องทำงานหนัก ขับรถเป็นเวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน และมีรายได้เพียงประมาณ 400 บาทต่อวัน และในเรื่องของความยุ่งยากกับการทำใบขับขี่สาธารณะ ซึ่งบริการ LINE TAXI ที่จะเริ่มให้บริการในช่วงปลายปีนี้ จะแก้ปัญหาเรื่อง Pain point ได้ทั้งในทางฝั่งของผู้ใช้บริการแท็กซี่ และทางฝั่งของคนขับแท็กซี่ อย่างแรกเลยก็คือ เป็นการผนวกรวมบริการนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแอพ LINE เลย ซึ่งเป็นแอพฯ ที่คนขับแท็กซี่ใช้งานกันอยู่แล้ว และจะออกแบบให้ใช้งานง่าย ซึ่งจะมีคนขับแท็กซี่กว่า 60,000 คน หรือคิดเป็นกว่า 60% ของรถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการอยู่ในกรุงเทพฯ จะเข้ามาอยู่ในระบบ LINE TAXI และนี่จะเป็นช่องทางที่ทำให้คนขับ สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการใช้บริการได้ง่ายขึ้น เป็นช่องทางที่ทำให้มีรายได้มากกว่าเดิม"
นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ทีมงาน LINE ประเทศไทย มีความตื่นเต้น เพราะอยากทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทย นำฐานผู้ใช้งานชาวไทยที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก มาสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ หวังว่าจะทำให้คนขับแท็กซี่มีรายได้เพิ่มเติม และเป็นแอพฯ ที่สร้างโดยทีมงานไทย เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้เข้าใจปัญหา และความต้องการของคนไทยเป็นอย่างดี โดยในตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบ คาดว่าจะพร้อมให้บริการปลายปีนี้ และบริการนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน"
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ (นั่งทางขวา)
ทางฝั่งของ ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ นายวิฑูรย์ แนวพานิช กล่าวว่า "ปัจจุบันผู้ให้บริการแท็กซี่ในไทย ประสบปัญหาเรื่องความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ที่ไม่สู้จะดีนัก ในเรื่องของการปฏิเสธผู้โดยสาร และมารยาทของผู้ให้บริการ และบริการ LINE TAXI น่าจะเข้ามาแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ และจากการที่เราได้พูดคุยกับทีมงาน LINE พบว่ามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของรถแท็กซี่ เราเชื่อมั่นในความชำนาญ และฐานจำนวนผู้ใช้งานแอพ LINE ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยทางสหกรณ์แท็กซี่ มีมาตรการคัดกรองว่า รถแท็กซี่ที่จะเข้าร่วมบริการ LINE TAXI สภาพรถต้องมีความพร้อมและดีพอที่จะให้บริการ คนขับต้องมีใบอนุญาตขับแท็กซี่ รวมถึงเรื่องมารยาทในการให้บริการ และเรื่องการส่งคืนของที่ลูกค้าลืมไว้บนรถ ซึ่งระบบการให้บริการรถแท็กซี่ในรูปแบบใหม่นี้ เปรียบเหมือนมีการเฝ้าจับตามองการให้บริการอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนขับไม่กล้าทำผิด และระบบนี้จะช่วยทำให้คนขับมีช่องทางการรับลูกค้าเพิ่มอีก 1 ช่องทาง ทำให้มีรายได้เพิ่มเติม"
และนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ในช่วงก่อนการเปิดให้บริการ LINE TAXI ในช่วงปลายปีนี้ เราต้องมีการเตรียมความพร้อมของคนขับ เตรียมความพร้อมของรถ รถต้องมีจำนวนเพียงพอสำหรับการให้บริการ และในอนาคตอาจสามารถให้บริการในลักษณะนี้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่จำกัดเขตเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น โดยในช่วงเริ่มต้นของการให้บริการ ดาดว่าจะมีรถแท็กซี่อยู่ในระบบ 20,000 - 30,000 คัน โดยคนขับต้องมีใบขับขี่สาธารณะ สภาพรถต้องพร้อม และอยากให้มีคนขับแท็กซี่มาร่วมให้บริการเยอะๆ เพราะจะเป็นตัวช่วยเพิ่มรายได้ และทำให้อยู่ในอาชีพนี้ได้"
โดยดาดว่าบริการ LINE TAXI จะพร้อมให้บริการในช่วงปลายปีนี้ และยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องอัตราค่าบริการแต่อย่างใดครับ